19. กลูตาไทโอน ( Clutathione )
ใช่แล้วค่ะ กลูตาไทโอนที่พูดถึงเป็นชนิดเดียวกันกับที่ฮิตกันในหมู่คนรักความขาว ซึ่งมีคนเสี่ยงอันตรายจากการกินหรือฉีดไปไม่น้อยที่เดียว เพราะอยากขาวนี่ละ
แต่ประโยชน์อีกด้านหนึ่งของกลูต้าไทโอนคือ ช่วยต้านฟรีแรดิคัล สารชนิดนี้ร่างกายของเราจะมีมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าตัวเรามีวิตามินบีเพียงพอหรือไม่ ถ้าพอก็จะร่วมมือกันอย่างดีในการทำลายฟรีแรดิคัลให้น้อยลงและช่วยชลอความชรา
ร่างกายของเราสามารถผลิตกลูตาไทโอนได้เอง แล้วยังได้จากสารอาหารต่างๆ อย่างเช่น ผักโขม มะเขือเทศ บรอกโคลี อะโวคาโด ฯลฯ
- กลูตาไทโอนคืออะไรและทำงานอย่างไร?
กลูตาไทโอน
เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เซลล์ร่างกายผลิตขึ้นมาเมื่ออยู่ในสภาวะเครียด
อันเนื่องมาจากหลายสาเหตุ เช่น
ได้รับสารพิษไม่ว่าจากสิ่งที่เรากินเข้าไปหรือยา ถูกแสงแดดมากเกินไป
เป็นต้น
จะขอยกตัวอย่าง
เปรียบเทียบการทำงานของสารกลูตาไทโอนดังนี้ โรงงานเมื่อผลิตสินค้าขึ้นมา
ย่อมมีของเสียเกิดขึ้นและถ้าของเสียนี้ไม่ได้กำจัดทิ้งให้หมด
ของเสียเหล่านี้ก็จะสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้คนในชุมชนไม่สบาย
เจ็บไข้ได้ป่วยบ่อยและมีผิวพรรณหมองคล้ำ
เซลล์คนเราก็เช่นกัน เมื่อผลิตพลังงานออกมา
ก็ต้องมีของเสียเกิดขึ้น ของเสียที่เกิดขึ้นนี้ เราเรียกรวมๆ กันว่า
อนุมูลอิสระ (FREE RADICALS) ซึ่งเมื่อสะสมมากขึ้นภายในเซลล์
ก็จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ลดลง และมีช่วงอายุที่สั้นกว่าปกติ
แต่เซลล์ร่างกายคนเราก็มีกลไกป้องกันตนเอง
ด้วยการผลิตสารขึ้นมาเพื่อทำลายอนุมูลอิสระเหล่านี้ เราเรียกสารพวกนี้ว่า
สารต้านอนุมูลอิสระ (ANTIOXIDANT)
สารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายผลิตขึ้นมานี้
ที่สำคัญมีอยู่ 2 ตัว ที่ออกฤทธิ์ได้แรงและมีประสิทธิภาพสูง
ตัวแรกจะไม่ขอกล่าวถึงเพราะต้องสังเคราะห์ภายในเซลล์เท่านั้น
ตัวที่สองคือ กลูตาไทโอน
ซึ่งเซลล์สามารถสังเคราะห์ได้เองและมีอยู่ในอาหารบางประเภท เช่น เนื้อ นม
ไข่ เป็นต้น
สารต้านอนุมูลอิสระทั้งสองตัวนี้จะทำหน้าที่เป็นตัวหลักในการทำลายอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวัน และเมื่ออายุคนเรามากขึ้น การสังเคราะห์สารทั้งสองตัวนี้ก็ลดลงตามไปด้วย
เมื่อเราอยู่ในสภาวะเครียด
อย่างในกรณีได้รับสารพิษสะสม, กินยาบางประเภท, การทำงานกลางแดดจัด,
อดหลับอดนอน, ดื่มเหล้าหรือสูบบุหรี่, ป่วยเรื้อรัง เช่น
เป็นมะเร็งหรือโรคเอดส์ เป็นต้น
สภาวะเหล่านี้
จะกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมากและมากกว่าที่สารต้านอนุมูลอิสระ
ทั้งสองตัวนี้จะรับมือได้
อนุมูลอิสระที่เหลือรอดจากการถูกทำลายจำนวนมากนี้จะไหลเวียนไปทั่วร่างกาย
ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ลดลงและเสื่อมเร็วกว่าปกติ
เราจึงพบว่า คนที่อยู่ในสภาวะดังกล่าวจะมีสภาพซึมเซา
ไม่สดชื่น อ่อนแอ ภูมิต้านทานต่ำ เป็นมะเร็งได้ง่าย
ผิวหน้าและผิวตัวหมองคล้ำ และที่สำคัญสารอนุมูลอิสระนี้จะไปเร่งการทำลายคอลลาเจนที่ผิวหนังให้เร็วขึ้น ดังนั้นคนเหล่านี้จึงมีผิวพรรณที่หย่อนยานและดูแก่กว่าวัยอันควร
จากการศึกษาวิจัยพบว่า กลูตาไทโอนจะเป็นตัวทำลายอนุมูลอิสระที่ออกฤทธิ์ภายในเซลล์ ที่มีประสิทธภาพ ส่วนวิตามินซี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ออกฤทธิ์ภายนอกเซลล์
เมื่อให้สารสองตัวนี้ร่วมกัน จะส่งเสริมฤทธิ์ของซึ่งกันและกัน
ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระทั้งสองตัวนี้สูงขึ้นเป็นทวีคูณ
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ควรให้สารสองตัวนี้พร้อมกัน จะทำให้สุขภาพร่างกายสดชื่นขึ้นและผิวพรรณกระจ่างใสขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้
กลูตาไทโอนยังช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย
ช่วยให้ตัวอสุจิของผู้ชายแข็งแรงขึ้น ช่วยให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคทางประสาท
เช่น โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ โรคอ่อนเพลียเรื้อรังดีขึ้น
ตั้งแต่ปี 2530 เป็นต้นมา
มีการวิจัยด้วยการนำกลูตาไทโอนมาใช้ควบคู่กับการรักษาโรคเอดส์และโรคมะเร็ง
พบว่าคนไข้เหล่านี้มีอาการทั่วไปดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน
ถึงแม้จะไม่ได้หายจากโรคที่เป็นอยู่ แต่อาการโดยรวมจะดีขึ้น
โดยเฉพาะคนไข้ที่เป็นเอดส์ พบว่าสามารถยืดระยะเวลาที่แสดงอาการออกไปได้
และที่สำคัญพบว่า คนไข้เหล่านี้ นอกจากจะมีสุขภาพโดยรวมดีขึ้นแล้ว ยังมีหน้าตาสดชื่นและผิวพรรณแจ่มใสเป็นประกาย ต่างจากเดิมที่เป็นอยู่
จากกรณีดังกล่าว
จึงมีแพทย์บางท่านได้ทดลองนำกลูตาไทโอนมาใช้ทางด้านผิวพรรณในคนปกติ
พบว่าสามารถทำให้ผิวพรรณของคนเหล่านี้สดใสเป็นประกายสว่างไสว
จึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในแวดวงภาพยนตร์ฮอลลีวูด
ดารามีชื่อแทบทุกคนจะฉีดยากลูตาไทโอน
ซึ่งนอกจากจะช่วยให้สุขภาพของดาราเหล่านั้นดีขึ้นแล้ว
ยังช่วงให้ผิวพรรณของพวกเขาเป็นประกายสว่างไสวอย่างโดดเด่นเวลาอยู่ท่ามกลาง
หมู่คนจำนวนมาก
ค่ะ... สดๆ ร้อนๆ อีกไม่นานเกินรอ
พวกคุณจะได้สัมผัสกับกลูตาไทโอน + วิตามินซี (ที่มีความคงตัวสูง
เมื่ออยู่ในเนื้อครีม) ในรูปแบบของครีมบำรุงผิวขาวใส ในราคาที่สมเหตุสมผล (ปกติ การฉีดวิตามินซี + กลูตาไธโอน จะคิดเป็นคอร์ส ๆ ละ 30,000 - 80,000 บาท...!!!)
- โดย : นายแพทย์ฉัตรชัย ศรีบัณฑิต
กลูตาไทโอนเป็นพันธะเปปไทด์ของกรดอะมิโน 3 ตัว ได้แก่ ซีสเตอีน กลูตาเมต และไกลซีน กลูต้าไธโอนอยู่ในรูป reduced (GSH) และ oxidized (GSSG) โดย GSSG ถูก reduced ด้วย Glutathione
reductase สาร ascorbic acid จะเพิ่มการออกฤทธิ์ของ GSH ซึ่ง alpha lipoic
acid (ALA) เพิ่มการออกฤทธิ์ของกลูตาไทโอนอาจกลับมาเป็น GSSG
- ลักษณะของกลูตาไทโอน
- กลูตาไทโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระภายในเซลล์พบมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซลล์ตับ (จนถึง 5 mM)
- กลูต้าไธโอนถูกสังเคราะห์โดย Glutathione synthase โดยการใช้กรดอะมิโน 3 ชนิด : L-cysteine, L-glutamate และ glycine
- ตามธรรมชาติมี 2 รูปแบบ ได้แก่ reduced Glutathione (GSH) และ oxidized Glutathione disulphide (GSSG)
- อำนวยความสะดวกต่อการทำงานของภูมิคุ้มกัน
- เป็นสาร mitochondrial antioxidant
- เป็นสาร co-factor/ เอนไซม์ใน phase I enzymatic detoxification pathway
- Phase II detoxification pathway
- การป้องกันระบบประสาท
- การลดลงของกลูตาไทโอน
- แสดงให้เห็นเด่นชัดอย่างเฉียบพลันในการขาดกลูตาไทโอนเมื่อรับประทานยาพาราเซตามอลเกินขนาด
- ผลของการลดลงของกลูตาไทโอนนี้เกิดใน hepatocyte ชักนำให้ตับวายและเสียชีวิตได้
- การขาดกลูตาไทโอนเรื้อรังมีความสัมพันธ์กับความผิดปกติทางภูมิคุ้มกัน เพิ่มการเกิดเนื้อร้าย และในกรณีโรคเอดส์ อาจเร่งให้เกิดโรคขึ้นมาได้
- การขาดกลูตาไทโอนเป็นผลใน tissue oxidative stress สามารถเกิดโรคได้ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ที่เป็น G6PD (glucose 6-phosphate dehydrogenase deficiency) ทำให้เกิดปริมาณ NADPH และ reduced Glutathione ลดลง
- Oxidative stress เป็นสาเหตุให้ขาดกลูตาไทโอนใน fragile erythrocyte membranes
- ข้อบ่งใช้และการใช้ประโยชน์
- รักษาพิษจากยาพาราเซตามอล
- ใช้เบื้องต้นสำหรับ : มะเร็งบางชนิด โรคไขมันอุดตันที่ผนังหลอดเลือด (atherosclerosis) โรคเบาหวาน ปอดมีความผิดปกติโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคปอดอุดกั้น สูญเสียการได้ยินเนื่องมาจากเสียง ผู้ชายที่เป็นหมัน ป้องกันหรือทำให้พิษดีขึ้น ต้านเชื้อไวรัส ยากำพร้าในการรักษาเอดส์ที่สัมพันธ์กับภาวะขาดสารอาหาร
- ผลข้างเคียง
- ผิวหนังแดง
- ความดันโลหิตต่ำ
- หอบหืดเฉียบพลัน
- อาจเกิด anaphylactic reaction จากการปนเปื้อนหรือความไม่บริสุทธิ์
- ข้อห้ามและควรระวังเป็นพิเศษ
- ผู้ที่แพ้ยาฉีดกลูตาไทโอน
- ผู้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะ
- แพ้, หอบหืด
- สารที่ทำให้ขาดกลูตาไทโอน
- การสูบบุหรี่
- ดื่มแอลกอฮอล์
- คาเฟอีน
- ยาพาราเซตามอล
- ยา
- ออกกำลังกายหนัก
- รังสี X Y และยูวี
- Xenobiotics
- Estradiol
- บทบาทของกลูตาไทโอนในยาแผนปัจจุบันและยาแผนทางเลือก
- พิษจากยาพาราเซตามอล
- โรคมะเร็ง
- xenobiotics detoxification
- โรคพาร์คินสัน
- โรคอัลไซเมอร์
- เพิ่มภูมิคุ้มกัน เอดส์ ต้านเชื้อไวรัส เชื้อ herpes simplex virus type I
- โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
- สูญเสียการได้ยินเนื่องจากเสียง
- ผู้ชายที่เป็นหมัน
- ออทิสติก
- โรคเหนื่อยเรื้อรัง
- โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
- ความดันโลหิตสูง
- metabolic syndrome
- autoimmune thyroiditis
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น