Lets Cheek! แบบไหนเรียกว่า "พีค"
การออกกำลังกายจนถึงจุดพีคสังเกตได้จาก
- มีเหงื่อโชมกาย
- หัวใจเต้นแรง
- ชีพจรเต้นเร็วตั้งแต่ 100 - 120 ครั้งต่อนาที
- ออกกำลังกายให้ถึงพีค
แต่สิ่งสำคัญเพื่อให้ได้โกร๊ธฮอร์โมนมาครอบครอง อาจารญ์สาทิส อินทรกำแหง เสริมว่า
"มีข้อแม้อยู่ว่า ต้องออกกำลังกายหรือทำกายบริหารให้จุดพีค (peak) ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 3 - 4 ครั้ง และแต่ละครั้งควรใช้เวลาต่อเนื่องอย่างต่ำ 20 - 30 นาที"
"โดยเลือกออกกำลังกายด้วยวิธีไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการรำกระบอง ว่ายน้ำ หรือโยคะ ยิ่งออกกำลังกายมากก็ยิ่งสดใส ไม่รู้สึกเหนื่อย"
งานวิจัยโดยแผนกสรีรวิทยาการออกกำลังกาย สถาบันวิจัยเวชสศาสตร์สิ่งแวคล้อม แห่งกองทัพสหรัฐอเมริกา แนะวิธีบู๊สต์อย่างด่วนด้วยการออกกำลังกายประเภทใช้กล้ามเนื้อต้นขาและมีอุปกรณ์ เช่น พายเรือ ยกน้ำหนัก ย่อนั่งเก้าอี้ลม วิดพื้น เหล่านี้จะกระตุ้นให้กล้ามเนื้อได้ออกแรงจนถึงจุดพีคง่าย ซึ่งผ่านการพิสูจน์แล้วว่า ทำให้ปริมาณโกร๊ธฮอร์โมนหลั่งเพิ่มขึ้นหลายเท่า
เป็นที่น่าสังเกตอีกว่า อุณหภูมิขณะออกกำลังกายก็มีอิทธิพลด้วย ดดยกลุ่มนักวิจัยจากคิงส์คอลเลจลอนดอน ประเทศอังกฤษ ศึกษาพบว่า
การออกกำลังกายในที่อากาศเย็นทำให้โกร๊ธออร์โมนหลั่งปริมาณน้อยกว่าและช้ากว่าในอุณหภูมิห้อง เนื่องจากอุณหภูมิแกนกลางของร่างกาย ผอุณหภูมิที่วัดเมื่ออวัยวะภายในและระบบร่างกายทำงานในระดับที่เหมาะสม) ที่เอื้อต่อการหลั่งดกร๊ธฮอร์โมนลดลง
- ปรับอารมณ์คิดบวก
"ในทางตรงกันข้าม หากปล่อยให้เกิดความพอใจหรืออารมณ์ด้านลบ เช่น โกรธ เครียด เศร้า เสียใจ นอกจากโกร๊ธฮอร์โมนจะไม่ยอมหลั่ง ยังอาจได้ฮอร์โมนตัวร้ายอื่นๆ ออกมาแทนที่ เช่น อะดรีโนคอร์ติดคโทรปิกฮอร์โมน (Adrenocorticotropic Hormone : ฮอร์โมนที่มีผลต่อเซลล์สีผิว รากขน และระบบภูมิคุ้มกันผิวหนัง) แล้วไปทำลายภูมิชีวิตของคนทำงาน"
ที่สำคัญ การคิดด้านบวกเพื่อสลายอารมณ์ด้านลบ โดยเฉพาะความเครียดไม่เพียงเสริมการหลั่งโกร๊ธฮอร์โมน หากช่วยป้องกันไม่ให้ภูมิชีวิตถูกทำลายอีกต่อ
ได้โกร๊ธฮอร์โมนหลั่งตลอดกาลไม่ว่างานยากลำบากแค่ไหน ก็แข็งแรงพร้อมลุยค่ะ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น